พิชิตแล้ว 1864 โค้ง แม่ฮ่องสอน

Mae Hong Sorn

จ.แม่ฮ่องสอน 

เชื่อได้เลยว่า หลายคนคงได้ยินกิตติศัพท์เลื่องลือเรื่องที่โค้งเยอะมากที่สุดถึง 1,864 โค้ง

วันนี้! เราจะไปพิชิต 1,864 โค้ง! กัน

เที่ยวไกล ถึงแม่ฮ่องสอน มาสัมผัส จ.ที่มีโค้งมากที่สุดซะหน่อย สุดๆอ่ะ โค้งอันหยังปะล้ำปะเหลือ (โค้งอะไรกันนักกันหนา) 555 คนที่มักมีอาการเมารถ หากคุณคิดจะมาที่นี่ล่ะก็..เตรียมถุงอ๊วกซัก 10 ใบเน้อเจ้า... 55555 ^___^ ขนาดขับเองยังเวียนหัวเลย ยังกะเล่นเกมส์แข่งรถ โค้งซ้ายโค้งขวา แขนนี่หมุนพวงมาลัย ซ้ายขวาๆๆๆ ตลอดเวลา

วันนี้เราเลือกเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ มาทาง ปาย-แม่ฮ่องสอน คือเที่ยวเชียงใหม่ เสร็จ มาแวะนอนปาย แล้วเดินทางต่อไปยัง แม่ฮ่องสอน มาทีเดียว เที่ยวให้คุ้ม ยาวไปๆ

*!*

เที่ยวปายเสร็จ ออกจากตัวเมือง อ.ปาย เราก็ออกเดินทางไปตามถนนมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองแม่ฮ่องสอน สถานที่แรกขอแวะก่อนเลย... 

จุดชมวิวกิ่วลม
ที่นี่ก็จะมีวิวสวยๆให้ชม มีทะเลหมอกให้ชิววว แล้วก็มีน้องๆคอยให้บริการถ่ายรูปเป็นเพื่อนด้วย
ก็เลยต้อง แชะ! กันซะหน่อย ^^
***

จากจุดชมวิว ลงดอยมาเรื่อยๆ ค่อยๆขับนะคับ ทางลาดชันอยู่
แล้วเราก็เดินทางไปยังสถานีต่อไป...

ถ้ำลอด

ก่อนเข้าไปในถ้ำ บริเวณด้านหน้า เราก็จะต้องแวะจ่ายค่าเข้าและค่าไกด์นำเที่ยวด้วยนะครับ บริเวณนี้ก็จะมีขายอาหารปลา เพื่อที่เราจะได้ซื้อไปฝากน้องปลาในถ้ำ จุดนี้อย่าลืมซื้ออาหารปลาเข้าไปด้วยล่ะ บอกก่อนเลย ไม่งั้นหมดสนุกแน่ ^^

 บริเวณหน้าถ้ำ ก็จะมีแพคอยให้บริการเพื่อพาเราเข้าไปชมบริเวณภายในถ้ำ 
เราก็นั่งแพไม้ไผ่แบบนี้เข้าไปนะ ^^ มีที่นั่งเล็กๆให้นั่ง คนเหนือเรียก "ก้อมนั่ง" ^^

 เสร็จแล้วพี่เค้าก็จะจัดการลาก พาเราเข้าไปเยี่ยมชมถ้ำ

 ข้างในถ้ำ จะมีอยู่หลายถ้ำ ให้เราแวะเข้าไปชมเป็นจุดๆ ก็คือ ถึงถ้ำแรกพี่เค้าก็จะจอดแพเทียบไว้ แล้วก็จะมีคนพาเราขึ้นไปชมข้างบนถ้า ทีละถ้ำ ไปเรื่อยๆ

พอเข้าไปข้างในถ้ำ ฝูงปลาเค้าก็จะรู้งาน จะคอยว่ายเลียบๆเคียงๆ ขนาบคู่กับแพไป และพอเราโยนอาหารให้เท่านั้นแหล่ะ...!!! มากันเป็นฝูง

ความจริงให้อาหารปลานี่สนุกที่สุดละ ^^

" ถ้ำลอด " เป็นถ้ำที่มีน้ำไหลผ่านลอดเข้าไปในถ้ำ 

น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา พบได้ที่นี่เลย เราต้องนั่งแพเข้าไปชมในถ้ำ ซึ่งเค้าจะมีไกด์ไว้คอยนำทางและพาเราเข้าไปชมหินงอกหินย้อยข้างในถ้ำ แม่น้ำที่ลอดผ่านถ้ำ จะมีปลาอาศัยอยู่เยอะมาก มันจะคอยว่ายตามแพของเรา พอเราให้อาหารมันปุ๊บ มันก็จะว่ายเข้ามาให้เราได้ชมกันใกล้ๆ เลยทีเดียว สนุกดี ^_^ เที่ยวถ้ำลอดเสร็จ ต่อไปก็ถ้ำปลาครับ ขับรถไปอีกซักพักนึง
ก็จะเจอป้ายบอกทางอยู่ขวามือ ถ้ำปลาจะอยู่ติดถนนเลย เห็นได้ชัดเจน

"อุทยานแห่งชาติ ถ้ำปลา" น้ำตกผาเสื่อ หากมาจากทางปาย ต้องแวะ เพราะสวยมาก ปลาตัวใหญ่สีฟ้า สวยงาม  ทางผ่านอยู่แล้ว ก็แวะชมธรรมชาติกันก่อนนนน ^^ 

ทางเดินเพื่อเข้าชมถ้าปลา

จะปกคลุมด้วยต้นไม้ และธรรมชาติ

เดินไป ชมวิวไป สูดอากาศบริสุทธิ์กันให้เต็มปอด เพราะอากาศดีมากกกก

ร้านกาแฟก็มีบริการ

ปลาตัวโตสีฟ้าที่เราเห็น เค้าเรียกว่า ปลามุงนี่เอง

ธรรมชาติสมบูรณ์ฝุดๆ

ปลาเยอะมาก

ครีบเป็นสีฟ้า

ว่ากันว่าเป็นปลาเจ้า ศักดิ์สิทธิ์

อันนั้นที่มาที่ไปเป็นอย่างไรไม่รู้

รู้แค่ว่าสีของตัวปลา สวยดี 555

แอ่งน้ำบริเวณหน้าถ้ำ

ฝูงปลาแหวกว่ายเต็มไปหมด

ปลาก็สีออกฟ้าๆ น้ำก็ออกสีฟ้าๆ แปลกดี

ที่ถ้ำปลาแห่งนี้ จะเป็นถ้ำที่อยู่ใต้ภูเขา น้ำที่ไหลออกมาจากใต้ถ้ำ จะไหลออกมาตลอดปี

และลำน้ำใต้ถ้าก็มีฝูงปลามุงอาศัยอยู่มากมาย จึงเชื่อกันว่า ถ้ำนี้ เป็นถ้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ปลาที่อาศัยอยู่ จึงมีความเชื่อกันว่าเป็นปลาเจ้านั่นเอง

ปลาที่อยู่ที่ถ้าปลาแห่งนี้ ชื่อว่า ปลามุง หรือ ปลาพลวง

เชื่อกันว่าเป็นปลาเจ้า จึงไม่มีใครกล้าจับกิน หากจับกินเชื่อกันว่าจะมีอันเป็นไป

ชาวบ้านเล่าว่า ฝูงปลาจะอยู่บริเวณนี้ตลอดเวลา ไม่ไปไหนเลย

กราบปู่ฤาษีหน้าถ้ำก่อน

ปลาเต็มหน้าถ้ำไปหมดเลย

ลำน้ำหน้าถ้ำปลา ณ บริเวณนี้เป็นลำน้ำที่ไหลออกมาจากภูเขาหินปูน เกิดจากการซึมซับ และไหลลอดออกมาจากถ้ำ ไหลมาบรรจบกับลำน้ำแม่สะงี ระบบนิเวศแบบนี้ เหมาะแก่การอาศัยและขยายพันธุ์ของปลาพวงหิน ซึ่งมีขนาดใหญ่ บางตัวมีน้ำหนักถึง 7-10 กิโลกรัม อาศัยอยู่รวมกันนับพันๆตัว เรารู้เพียงว่า ในช่วงฤดูฝน ปลาพลวงหินจะว่ายทวนน้ำขึ้นไปวางไข่ แต่ยังเป็นปมปริศนาอยู่ว่า ปลามุงเจ้าวางไข่ที่ไหน?

ก็แปลกดีนะครับ ธรรมชาติมักจะสร้างสรรค์สิ่งสวยงามให้เราได้ดูได้ชมเสมอ บางครั้งก็เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ บางครั้งก็พิสูจน์ไม่ได้ ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน ขอเพียงหากเราได้พบเห็น ชื่นชมธรรมชาติแล้วช่วยกันรักษาสิ่งสวยงามเหล่านี้ไว้ ไม่ทำลาย ก็เพียงพอแล้ว

มองปลาสวยๆ ธรรมชาติสวยๆ เรียบร้อย ก็มุ่งหน้าเดินทางต่อไป มาถึงเราก็แวะเข้าที่พักกันก่อนเลย  ส่วนที่พัก เราเลือกพักที่...

อิมพีเรียล แม่ฮ่องสอน 

ห้องพักก็เหมือนโรงแรมทั่วๆไปครับ 

มองจากระเบียงด้านหลังห้องพัก

วิวใช้ได้เลยทีเดียว มีสระว่ายน้ำให้ครับ

เช้าแล้ว ได้เวลาท่องเที่ยวต่อแล้วจ้า ^^

เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม มาถึงเมืองเค้า ต้องสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเค้าก่อน

วัดพระธาตุดอยกองมู

สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ชาวแม่ฮ่องสอน ซึ่งตั้งอยู่บนดอยกองมู

วิวเมืองแม่ฮ่องสอน สวยจัง ^_^ ภูเขาเค้าส๊วยสวยนะที่นี่

ดูสวยแปลกตา เพราะเป็นศิลปะแบบชาวไทใหญ่

สาธุครับ

วิวเมืองแม่ฮ่องสอน

ประวัติพระธาตุดอยกองมู

วัดพระธาติดอยกองมู แต่เดิมชื่อ วัดปลายดอย (ปลายดอย ก็คือ ยอดดอย นั่นเอง) ภายในวัดมีเจดีย์ที่สำคัญ 2 องค์ คือ พระธาตุเจดีย์องค์ใหญ่ สร้างเมื่อ จุลศักราช 1222 ตรงกับ พ.ศ.2403 เป็นที่บรรจุพระธาติของพระมหาโมคคัลลานะเถระ ซึ่งนำมาจากประเทศพม่า โดยศรัทธาผู้สร้าง ชื่อ จองต่องสู่ และ นาง เหล็ก ผู้เป็นภรรยา

พระธาตุเจดย์องค์เล็ก สร้างเมื่อจุลศักราช 1236 ตรงกับ พ.ศ.2417 โดยศรัทธาผู้สร้าง ชื่อ พญาสีหนาท ราชาเจ้า ผู้ครองเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก

เจดีย์คู่ดูสวยงาม ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดดอย

ไก่แจ้ ตัวน้อย

ร้านกาแฟร้านนี้ จะอยู่บริเวณที่จอดรถด้านหลังเลย

วิวเค้าสวยดีนะ จิบกาแฟชมวิว ชิลล์ชะมัดเลยยย ^_^ ที่สำคัญร้านน่ารักดี

ไหว้พระเสร็จแล้วก็เดินทางต่อ .. สถานที่ต่อไป ไม่ไกลจากที่วัดนี้เลย

***

นั่นก็คือ.....

 หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว

ค่าเข้าเยี่ยมชม มีราคาคนไทย และราคาชาวต่างชาติ

ค่าเข้าชม ณ วันที่มา คนไทย 120 ต่างชาติ 250

หันไปบอกคุณลุง Leo ว่า ลุงลีโอฝรั่ง 250 ค่ะ คุณลุงตอบมาว่า.."โผมเปนคนทายยย" 55555 

ฝรั่่งยังมีมุกอ่าาา แต่แอบกระซิบถามเราว่า ทำไมต้องเก็บฝรั่งมากกว่าด้วย อืม..ตอบไงดี!!!

สาวชาวกะเหรี่ยงสมัยนี้ ไม่ได้ขี้ริ้ว
ขี้เหร่เลยน๊าาาาา ^^

ห่วงที่ผู้หญิงกะเหรี่ยงเค้าใช้ใส่ที่คอกัน สวยนะ แต่ไม่ดีกว่า 555

ของฝากแปลกๆ เยอะแยะเลย

เด็กน้อยๆ ^^ ก็ต้องเริ่มใส่ห่วงที่คอแล้วเหมือนกัน

มีจำหน่ายนะคับ เผื่อใครอยากซื้อไปใส่เล่นๆ ที่บ้าน

เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า ในสมัยก่อน หากคนในเผ่าทำผิดกฎของชนเผ่า วิธีการลงโทษคือ เค้าจะถอดห่วงที่คอออก แล้วคนคนนั้นก็จะค่อยๆคอหักตาย จริงไม่จริงไม่รู้เน้อ เค้าเล่ามา *,*

ผู้หญิงที่นี่เค้าแข็งแรงกันนะ

จะมีป้าย เตือน ว่ามีทางระบายน้ำล้น ตลอดทางเข้าเลย

เส้นทางจะมีทางน้ำผ่านแบบนี้เป็นระยะๆ เลยนะ

ก็สนุกกันพอสมควรนะครับ สำหรับทริปแม่ฮ่องสอน มีอะไรแปลกๆ และสวยงามให้ชมอยู่เยอะเลยทีเดียว  แต่ในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเอง เหมือนจะไม่ค่อยมีที่เที่ยวซักเท่าไหร่ และเนื่องจากเราจะเดินทางเพื่ออ้อมเป็นวงกลม จากเชียงใหม่ ไปปาย มาแม่ฮ่องสอน แล้วเดินทางเที่ยวต่อไปยังทุ่งดอกบัวตอง แล้วจึงจะกลับเชียงใหม่ เวลาจึงค่อนข้างมีจำกัด จึงจบทริปแต่เพียงเท่านี้ สำหรับ เมืองแม่ฮ่องสอน เส้นทางแห่ง 1,864 โค้ง  และตอนนี้คงถึงเวลาที่เราจะเดินทางต่อไปยังทุ่งดอกบัวตองกันต่อแล้วสินะ แล้วมาติดตามชมทริปหน้า กับทริปทุ่งดอกบัวตอง รอติดตามกันด้วยนะครับ ขอบคุณครับ  บ๊าย บาย ^_^